เมนู

อย่างนี้แล จึงไม่มีอหังการ นมังการ และมานานุสัย ในกายที่มีใจครองนี้
และในสรรพนิมิตภายนอก.
จบ กัปปสูตรที่ 1

อรรถกถากัปปสูตรที่ 1



กัปปสูตรที่ 1 (มีเนื้อความ) เหมือนกับราหุโลวาทสูตรนั่นแล.
จบ อรรถกถากัปปสูตรที่ 1

13. กัปปสูตรที่ 2



ว่าด้วยการรู้การเห็น เป็นเหตุปราศจากอหังการ มมังการ และ

มานานุสัย



[319] กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล ท่านพระกัปปะเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มี-
พระภาคเจ้า
ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อบุคคลรู้อยู่อย่างไร เห็นอยู่
อย่างไรหนอแล มนัสจึงจะปราศจาก อหังการ มมังการ และมานานุสัย
ในกายที่มีใจครองนี้ และในสรรพนิมิตภายนอก ก้าวล่วงมานะด้วยดี
สงบระงับ พ้นวิเศษแล้ว ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนกัปปะ รูป เวทนา สัญญา
สังขาร วิญญาณ
อย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
เป็นภายในก็ดี ภายนอกก็ดี หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี เลวก็ดี ประณีตก็ดี
มีอยู่ในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี อริยสาวกเห็นสิ่งทั้งหมดนั้น ด้วยปัญญา

อันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่ใช่นั่น
นั่นไม่ใช่อัตตาของเราอย่างนี้แล้ว จึงหลุดพ้นเพราะไม่ถือมั่น ดูก่อน
กัปปะ เมื่อบุคคลรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้แล มนัสจึงปราศจาก
อหังการ มมังการ และมานานุสัย ในกายที่มีใจครองนี้ และในสรรพนิมิต
ภายนอก ก้าวล่วงนานะด้วยดี สงบระงับ พ้นวิเศษแล้ว.
จบ กัปปสูตรที่ 2
จบ ธรรมกถิกวรรค

อรรถกถากัปปสูตรที่ 2



กัปปสูตรที่ 2

(มีเนื้อความ) เหมือนกับราหุโลวาทสูตรนั่นแล.
จบ อรรถกถากัปปสูตรที่ 2
จบ อรรถกถาธรรมกถิกวรรคที่ 2


รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้คือ


1. อวิชชาสูตร 2. วิชชาสูตร 3. ธรรมกถิกสูตรที่ 1 4.
ธรรมกถิกสูตรที่ 2 5. พันธนสูตร 6. ปริมุจจิตสูตรที่ 1 7. ปริมุจ-
จิตสูตรที่ 2 8. สังโยชนสูตร 9. อุปาทานสูตร 10. สีลสูตร 11.
สุตวาสูตร 12. กัปปสูตรที่ 1 13. กัปปสูตรที่ 2